เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำงานเฉพาะตามโปรแกรมที่ผู้ใช้ต้องการ โดยทั่วไปจะเรียกว่า ซอฟท์แวร์ ซึ่งซอฟท์แวร์ที่ได้รับความนิยม คือ โปรแกรมคำนวณ โปรแกรมการจัดการฐานข้อมูล โปรแกรมประมวลคำ โปรแกรมสำหรับค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต โดยซอฟท์แวร์ประยุกต์สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ซอฟท์แวร์ประยุกต์เฉพาะงาน และซอฟท์แวร์ประยุกต์ทั่วไป
สำหรับซอฟท์แวร์ประยุกต์เฉพาะงานเป็นโปรแกรมที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาสำหรับไปใช้งานเฉพาะด้านในสาขาใดสาขาหนึ่งตามความต้องการของผู้ใช้ โดยผู้ที่เขียนโปรแกรมคือโปรแกรมเมอร์ ที่มีความสามารถในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และศึกษาทำความเข้าใจของการประยุกต์ได้ดี เช่น โปรแกรมจัดการด้านการเงิน โปรแกรมช่วยจัดการบริการลูกค้า โดยซอฟท์แวร์ประเภทนี้จะไม่ค่อยได้พบในท้องตลาด จะสามารถหาซื้อโปรแกรมดังกล่าวได้จากผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายซึ่งจะมีราคาค่อนข้างสูงกว่าซอฟท์แวร์ที่ใช้งานทั่วๆไป และซอฟท์แวร์ส่วนใหญ่ที่บริษัทผลิตจะออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้านธุรกิจ โดยรวบรวมจัดประเภท ได้ดังนี้
- ซอฟท์แวร์ระบบจัดจำหน่าย ซึ่งได้แก่ ระบบงานรับใบสั่งซื้อสินค้า ระบบงานแบบบริหารสินค้าคงคลัง ระบบงานประวัติการขาย
- ซอฟท์แวร์ระบบงานด้านบัญชี ได้แก่ ระบบงานบัญชีเจ้าหนี้ บัญชีลูกหนี้ บัญชีสินทรัพย์ถาวร บัญชีแยกประเภททั่วไป และบัญชีเงินเดือน
- ซอฟท์แวร์สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ ระบบกำหนดโครงสร้างผลิตภัณฑ์ การวางแผนกำลังการผลิต การคำนวณต้นทุนของงาน การประเมินผลงานของพนักงาน การวางแผนการผลิตหลัก การวางแผนความต้องการของวัสดุ การควบคุมการทำงานของโรงงาน การกำหนดเงินทุนมาตรฐานสินค้า การกำหนดขั้นการผลิต
- ซอฟท์แวร์อื่นๆ เช่น การาร้างรายงาน การบริหารการเงิน การเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ การเช่าซื้อรถยนต์
ในส่วนของการใช้งานซอฟท์แวร์สำเร็จรูปจะเป็นแบบผู้ผลิตสร้างมาสำเร็จรูปพร้อมใช้งาน และวางขายทั่วๆไป โดยมุ่งเน้นสำหรับใช้งานใดงานหนึ่ง และสามารถนำไปประยุกต์ให้เหมาะสมกับงานของตน ซึ่งราคาของซอฟท์แวร์ราคาจะไม่สูงมาก โดยจะแบ่งออกเป็นหลายๆกลุ่ม คือ
- ด้านกราฟฟิก และโปรแกรมนำเสนอข้อมูลต่างๆ
- ด้านเกมและนันทนาการ
- ด้านการวิเคราะห์หรือตารางการทำงาน
- ด้านการลงทุนและจัดการการเงิน
- ด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม
- ด้านการเก็บข้อมูลและค้นหาข้อมูลเป้นระบบฐานข้อมูล